GPS Tracker คืออะไร ทำไมต้องติด?

หลายคนที่รู้ข่าวจากกรมการขนส่งทางบกที่ออกมาประกาศให้รถโดยสารทั้งหลายต้องไปติดตั้งระบบติดตามรถยนต์หรือ GPS tracker ก่อนนำไปจดทะเบียนหรือต่อทะเบียนตั้งเเต่วันที่ 25 มกราคม 2559 ที่ผ่านมา ซึ้งเจ้าตัว GPS tracker นี้ก้มีค่าใช้จ่ายอยู่พอสมควรในการติดตั้ง ทำให้ผู้ประกอบการต่างๆมีคำถามว่าเมื่อติดตั้งเจ้าอุปกรณ์ตัวนี้เข้าไปจะมีผลดีต่อกิจการหรือต่อผู้โดยสารยังไงบ้าง ทำไมจึงต้องมีการบังคับให้ติด อันดับเเรกเรามาทำความรู้จักเจ้าอุปกรณ์ GPS tracker หรือที่เรียกติดปากกันว่า GPS tracking ที่ว่านี้กันก่อน ว่ามันคืออะไร ใช้งานยังไง

GPS นั้นย่อมาจาก Global Positioning System เป็นระบบบอกตําแหน่งบนพนผิวโลก โดยอาศัยการคำนวณพิกัด จากดาวเทียมระบุตำแหน่ง จํานวน 24 ดวง ที่โคจรรอบโลก  สามารถบอกตำแหน่งไดทก แหน่งบนโลกตลอดเวลา ่ 24 ชวโมง ก่อให้เกิดเป็นเทคโนโลยีต่างๆมากมาย หลักๆ ได้แก่ GPS navigator และ GPS tracker

-GPS navigator คือการใช้ระบบบGPS เพื่อนำทางไปยังสถานที่ต่างๆ ตั้งเช่น google maps ที่มีโหมด navigator  ใช้บอกเส้นทางไปยังจุดหมายในขณะขับรถ ผ่านสัญญาน GPS

-GPS tracking คือการใช้ระบบ GPS ในการติดตามเป้าหมาย ซึ่งเป็นตัวที่เราจะพูดถึงกันในบทความนี้ ในสมัยก่อนมีใช้กันเเค่ในทางทหารเเละการบิน แต่ปัจจุบันด้วยเทคโนดลยีที่พัฒนา GPS tracking ถูกนำมาใช้อย่างเเพร่หลายธุรกิจขนส่ง รถโดยสาร หรือแม้กระทั้งติดตามบุคคล เช่นคนแก่ หรือ เด็กๆ

GPS tracking แบ่งออกได้ประมาณ 2 เเบบ ได้แก่ offline และ online

• GPS tracking offline คือระบบที่เก็บข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพิกัด สถานที่ความเร็ว เวลา เอาไว้ในอุปกรณ์บันทึก เช่น hardisk หรือ SD card วิธีดูต้องนำมาถ่ายข้อมูลลงไปที่คอมพิวเตอรืเเละเปิดผ่านโปรอกรมเพื่อดูข้อมูล
• GPS tracking online (real time) ใ้ชระบบการบันทึกข้อมุลเหมือนดั่งเช่นแบบ offline ทุกอย่างเเต่พิเศษตรงที่ ระบบonline นี้จะส่งข้อมูลผ่านสัญญานอินเตอร์เน็ต (3G) ไปยังโปรแกรมของผู้ใช้งานทำให้ผู้ใช้งานสามารถระบุตำแหน่งของรถหรือสิ่งที่ติดตามอยู่ได้ทันทีวินาทีต่อวินาที ซึ่งในปัจจุบันยังมีการนำกล้องวงจรปิดมาติดตั้งในรถและส่งข้อมุลมาพร้อมกัน ทำให้ผู้ใช้ได้ทั้งภาพ เสียง เเละข้อมูลต่างๆอย่างครบถ้วน เสมือนอยู่ในเหตุการณ์